19/1/56

ร้านป้าแต๋วอาหารเสริมขายส่ง - ปลีก ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม กาแฟลดน้ำหนัก ของแท้100% ราคาสุดพิเศษ

0 ความคิดเห็น




"ร้านป้าแต๋วอาหารเสริมสวัสดีค่ะ

"สนใจสินค้าติดต่อสอบถาม : Email : suthin_k@hotmail.co.th
โทร : 085-1710654 ,    

           089-7434751           


" เชิญแวะชมสินค้าของร้านคุณป้าก่อนนะคะ เรามีสินค้าหลากหลายผลิตภัณฑ์หลากหลาย

ยี่ห้อให้เลือก ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศในราคาถูกแสนถูก

รับประกันสินค้าทุกชิ้นแท้ 100%
หรือสนใจสินค้าตัวไหนที่ไม่ได้ลงในเวปโทรมาสอบถามได้ค่ะ

คุณป้าใจดียินดีตอบฟรีทุกคำถามค่ะ "


*** ของแท้มีขายที่นี่ ของดีไม่จำเป็นต้องแพง !!! ***


หมายเหตุ :
1.ร้านนี้ขายของแท้เท่านั้นค่ะ 
2.ราคาส่งต้อง 2-3 ชิ้นขึ้นไปค่ะ 
3.ขอยกเลิกส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง เพราะมีหลายรายที่ไม่ยอมไปรับของทำให้
ทางร้านต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

  ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้านะคะ 

สินค้าใหม่มาแรงขายดีที่สุด !!!



ร้านป้าแต๋วอาหารเสริม

อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ,กาแฟลดน้ำหนัก,


ราคาพิเศษทุกรายการ ถุกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
สินค้าทุกชิ้นรับประกันของแท้ 100%  

และยินดีให้คำปรึกษาฟรี สนใจลองโทรมาไม่ซื้อไม่ว่าค่ะ


 

ราคาสุดพิเศษ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ



 สนใจสอบถามสั่งซื้อสินค้าได้ที่  :

 ป้าแต๋ว Tel : โทร : 085-1710654 ,    

           089-7434751 , 034-325055




ช่องทางการชำระเงิน : ธนาคารไทยพาณิชย์

 

สาขา Big C อ้อมใหญ่



ชื่อบัญชี :   สุทิน แก้วโกมุท          เลขที่ : 366 270 5719



สินค้าจัดส่งแบบ ลงทะเบียน , EMS



คลอโรฟิลล์กรีนเมจิก

0 ความคิดเห็น
คลอโรฟิลล์กรีนเมจิก  ราคา 1,100 บาท - 3 ขวดขึ้นไปราคาส่ง
เครื่องดื่มอัลฟัลฟ่า ชนิดเข้มข้น


    
ประเภท : เครื่องดื่ม
คุณสมบัติ :ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แก้โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ช่วยขับสารพิษจากร่างกาย ป้องกันเซลล์มะเร็ง ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก
ส่วนประกอบ :น้ำอัลฟัลฟ่า 10% ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ให้คลอโรฟิลล์ 120 มก.
วิธีใช้ :ผสมน้ำผลไม้ ในสัดส่วน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แก้ว (150 มล.) ดื่มเช้าเย็น หรือผสมน้ำ 1:10 เพื่อให้ได้คลอโรฟิลล์ 10%
บรรจุ :16 ออนซ์ (473 มิลลิลิตร)


คลอโรฟิลล์คือสารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลักคือสังเคราะห์แสงโดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์
  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่างๆจากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ คลอโรฟิลล์ในธรรมชาติมีหลายชนิด 
บางชนิดสามารถสังเคราะห์แสงได้ในที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เ
ช่นในร่างกายของคนจึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานหรือปฏิกริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคนนั้น
 พบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง  หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้
ระบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย
เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์ที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้แม้ว่าจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม
      อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้  จะละลายได้ในไขมันหรือในแอลกอฮอลล์บางชนิดเท่านั้น
 แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ เราจึงสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบรูณ์และบริสุทธิ์ที่สุดโดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตาม
ธรรมชาติร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทันทีและอย่างเต็มที่
และป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหารในกรณีที่ร่างกาย
ใช้ไม่หมดจะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่ายไม่สะสมไว้ในร่างกาย ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน
จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมด
จะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้
องค์การอาหารและยาของสหรัฐจึงให้การรับรองเฉพาะ คลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้เท่านั้นว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน
    
     อัลฟัลฟ่าเป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่

         *กรดอะมิโนไอโซลิวซีน   

         *ลิวซีน

         *ไลซีน

         *เมไธโอนีน    

         *พีนิลอะลานีน  

         *เทรโอนีน  

         *ทริปโตฟาน

         *วาลีน

กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่
ในอัลฟัลฟ่ายังมี

         *วิตามินเอ    *วิตามินบี6     *วิตามินบี12

         *วิตามินดี     *วิตามินอี     และวิตามินเค

รวมทั้ง เกลือแร่ เช่นฟอสฟอรัส  โปรแตสเซียม

           แคลเซียม  สังกะสี  เซเลเนียม และแมกนีเซียม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี เอมไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ

           ไลเปส  อาเมเลส  โคกูเลส  อีมูลซิน 

           อินเวอร์เดส  เปอร์อ๊อกซิเดส  เพคติเนส  โปรตีส

   มนุษย์เราต้องการเอมไซม์มากกว่า 3000 ชนิด แต่ร่างกายสร้างได้เองเพียงไม่กี่ชนิด
นอกนั้นจะต้องบริโภคจากอาหารสดประจำวันประเภทพืชผักและผลไม้ต่าง ๆ
 แต่ถ้่าหากอาหารเหล่านี้ผ่านความร้อนเกินกว่า 55 ํC ขึ้นไป เอมไซม์ต่่างๆนั้น
จะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไปและร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ร่างกายนั้นต้องการเอนไซม์เพื่อช่วยปรับระดับความสมดุลย์ของระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ
และจากวิธีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนี้เราจึงได้รับเอมไซม์เข้าไปในร่างกายน้อยมาก
   ในอัลฟัลฟ่า ยังมีซาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลในการลดการอุดตันของเส้นเลือด และช่วยยับยั้งคลอเลสเตอรอลชนิดเลว(LDL) ในเลือดลงได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตลง
   ไอโซฟลาโวน , ฟลาโวน และ สเตอโรล ในอัลฟัลฟ่ายังช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และจะปรับระดับฮอร์โมนดังกล่าวในผู้หญิงทั้งก่อนมีรอบเดือน และอยู่ในวัยที่ใกล้จะหมดรอบเดือน

 จากประสบการณ์ ของผู้บริโภคจากทั่วโลก ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

       *ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย

       *ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ

       *ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

       *ทำให้อาการของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง

       *ขับกรดออกจากข้อต่อต่างๆ ช่วยลดอาการปวดข้อให้ทุเลาลง

       *ขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฏิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร

       *เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น

       *แก้ปัญหาท้องผูก การขับถ่ายดีขึ้น

       *ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลสด แผลอักเสบ

       *บรรเทาอาการปวดศรีษะ และปวดไมเกรนได้
คำแนะนำ  : ห้ามนำคลอโรฟิลล์ไปใช้หยอดตาไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
หมายเลข อย. : 10-3-04442-1-0001
เครื่องดื่มอัลฟัลฟ่า ชนิดเข้มข้น ตรากรีนแมจิก
คุณสมบัติ ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แก้โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ช่วยขับสารพิษจากร่างกาย ป้องกันเซลล์มะเร็ง ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก

ส่วนประกอบ : น้ำอัลฟัลฟ่า 10% ใน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ให้คลอโรฟิลล์ 120 มก.

วิธีใช้ : ผสมน้ำผลไม้ ในสัดส่วน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แก้ว (150 มล.) ดื่มเช้าเย็น หรือผสมน้ำ 1:10 เพื่อให้ได้คลอโรฟิลล์ 10% บรรจุ : 16 ออนซ์ (473 มิลลิลิตร)

ความเป็นมาของบริษัท กรีน แมจิก จำกัด บริษัท กรีน แมจิก จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 2,4 ซอยรามอินทรา 64 ถนนรามอินทรา กม. 10แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230

โครงการรังสิยา เป็นอาคารหลังแรก โดยมีอาจารย์ธำรง ธรรมเกษม และคณะ มีที่ปรึกษาได้แก่
1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
2. ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์เภสัชกรหญิง ไพลิน เพ็ชรคล้าย อาจารย์ภาควิชาเภสัชกรรมมหาวิทยาลัยมหิดล
3. ดร. ปิ่นฉวี อดีตรองหัวหน้าภาควิชา วิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4. ดร. จารียา สุจารีกุล อาจารย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย5. พลตำรวจตรี ประสงค์ ปราสาททองโอสถ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ

6. ทันตแพทย์ วิบูลย์ สุวิกเม อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ รพ. จุฬาฯ7. เภสัชกร ประสิต อิศวรพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบำบัดน้ำบริษัท ปราณี จำกัด

8. พยาบาลวิชาชีพ สายสมร ผลซื่อ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี

ทางบริษัทได้นำ คลอโรฟิลล์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาจำหน่ายในเมืองไทย
เพราะทางผู้บริหารของบริษัทมีความคุ้นเคยกับ

มาดาม โรซารี่ ดีซูซ่า ผู้ผลิต คลอโรฟิลล์ในนามของ

บริษัท ดีซูซ่า อินเตอร์เนชั่นแนลอินคอร์เปอร์เรชั่น

จึงได้ขอนำคลอโรฟิลล์ ชนิดน้ำ ชนิดเม็ดและชนิดแคปซูลมาจำหน่ายในชื่อ

"กรีน แมจิก" และได้จดทะเบียนเป็นอาหารเสริม

เลขที่ อย. 10-3-04442-1-0001 ซึ่งได้จำหน่ายมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 8 ปี แล้ว

 แต่เดิมได้ทำการขายในระบบ MLM แต่ต่อมาเห็นว่าการจำหน่ายในระบบดังกล่าว

ทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อในราคาที่แพงมากจึงได้เปลี่ยนเป็น ระบบขายส่ง คือ
เมื่อผู้ที่จะนำไปจำหน่ายซื้อในปริมาณมากก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มไปตามลำดับ
ทำให้ราคาขายถูกลงกว่าเดิมถึง 3 เท่า ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ โดยทั่วถึงกัน

กำเนิดคลอโรฟิลล์ คลอโรฟิลล์ คือส่วนที่เป็นสีเขียวในพืช มีหน้าที่สังเคราะห์แสง
โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มารวมกับคาร์บอนไดออกไซค์ที่พืชดูดจากอากาศผ่านทางใบ
รวมกับน้ำที่พืชดูดมาทางราก กลายเป็นอาหารทำให้พืชเจริญเติบโตได้
 และคายก๊าซออกซิเจนออกมา จากการสกัด และวิเคราะห์ "คลอโรฟิลล์"
จากพืชกว่า 6000 ชนิด พบว่าคลอโรฟิลล์ที่ได้จากต้นอัลฟัลฟ่า
 จะบริสุทธิ์และดีที่สุด เพราะระบบราก สามารถชอนไชในดินได้ลึกกว่า 130 ฟุต
ดังนั้นจึงสามารถดูดซึมอาหารได้มากกว่า บริสุทธิ์กว่าไม่สะสมสารพิษไว้ในตัวมันเอง
 ในการสกัดคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์นั้น เราจะนำเอาต้นอัลฟัลฟ่าที่ไม่แก่เกินไป
หรืออ่อนเกินไปมาคั้นเอาน้ำสีเขียวพร้อมทั้งเกลือแร่ต่างๆ เช่นกรดอะมิโน 8 ชนิด
ได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน , ลิวซีน , ไลซีน , เมไธโอนีน , ฟินิลอะลานีน ,
เทรโอนีน , ทริปโตฟาน , และวานลีน ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้
ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่มีความจำเป็นต่อร่างกาย
 พร้อมทั้งเกลือแร่อื่นๆ
 เช่น ฟอสฟอรัส , แคลเซียม , โปแตสเซียม , สังกะสี , เซเลเนียม
และแมกเนเซียมและวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน เอ,บี,ดี,อี และ เค และเอ็นไซม์ต่างๆ
ที่ช่วยต้านสารพิษได้ดีกว่าพืชชนิดอื่น เราจะนำน้ำอัลฟัลฟ่าสีเขียวนี้
มาดูดความชื้นออก และทำให้แห้งภายใน 3 วินาที ด้วยวิธีการฟรีซดราย
ภายใต้อุณหภูมิเย็นพิเศษจะได้คลอโรฟิลล์ผงที่ละลายน้ำได้ 100%
ผงที่สกัดแห้งนี้สามารถเก็บไว้ได้นานนับสิบปี คลอโรฟิลล์
โดยตัวของมันเองจะไม่ละลายน้ำ แต่จะละลายได้ในไขมัน
หรือแอลกอฮอล์ แต่ทางเราสามารถสกัดเอาคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ที่สามารถละลายน้ำได้ออกมา
 ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ผิดกับคลอโรฟิลล์ที่ละลายในไขมัน
จะไม่ถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารแต่จะถูกย่อยในลำไส้เล็ก และจะถูกเก็บไปสะสมไว้ที่ตับ
 ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้แต่คลอโรฟิลล์ของเรา สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย เ
พราะในกรณีที่คลดโรฟิลล์ของเราใช้ไม่หมดก็จะถูกขับถ่ายทิ้งไป
 คลอโรฟิลล์ คือ สารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลักคือ
สังเคราะห์แสง (PHOTOSYNTHESIS) โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์
 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่างๆ
 จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช
รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์
คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น
แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน
 จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานหรือปฏิกิริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน
พบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง
หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ระบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย
พื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้
 ถึงแม้ว่าเราจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม
อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้
 จะละลายได้ในไขมันหรือในแอลกอฮอลล์บางชนิดเท่านั้น
แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมา
ได้อย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ
ร่างกายจึงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่
 และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร
ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมด จะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่ายไม่สะสมไว้ในร่างกาย
 ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน
จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก
 คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับ (LIVER)
ในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้
องค์การอาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรองเฉพาะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้
 (WATER SOLUBLE CHOLOPHYLL) เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน
 ถึงแม้ว่าจะบริโภคในปริมาณมากต่อวัน ก็ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด
 ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีเพียงแต่อาการท้องเสียอย่างเบาบางในบางกรณีเท่านั้น
 ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงต่างกัน
เฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก (Fe)
 จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดแดงมีสีแดง
 จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า "เลือดของพืช" (BLOOD OF PLANT)
ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า
 คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้จนผู้ทำวิจัยได้รับรางวัลโนเบล
 (NOBLE PRIZE) ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน คือ ดร.ริชาร์ด วิน สเตตเตอร์
 (DR. RICHARD WINSTATER) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย
ในปี ค.ศ.1930 ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์
 ในบางเงื่อนไขสามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลล์ด้วยเหล็ก (Fe)
 จากอาหารธรรมชาติบางประเภท ทำให้อัตราการเพิ่มของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น
 ทั้งนี้แมกนีเซียม (Mg) ที่หลุดออกไปจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลล์
ก็จะทำหน้าที่พาแคลเซี่ยม (ca) เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่าง ๆ
ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ในโพรงกระดูกซึ่งมีไขกระดูก (BONE MARROW)
 ก็จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่มากขึ้น (หน้าที่ของไขกระดูก
 คือ สร้างเม็ดเลือดแดงและปรับระดับความเป็นด่างในกระแสเลือด)
 จากการทำวิจัยขององค์การอาหารและยาสหรัฐ กับผู้ป่วยแผลเปิด
จำนวน 3,600 ราย พบว่าคลอโรฟิลล์ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ให้เร็วขึ้น
ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกว่าปกติ 25 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปและรอยแผลเป็นลดขนาด
ลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า จากกรณีนี้จึงมีการวิจัยต่อเกี่ยวกับ
การรักษาอาการเจ็บป่วยภายในร่างกายอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขึ้น
 พบว่าผู้ป่วยทั้ง 1,227 ราย กลิ่นภายในหายหมดหลังจากใช้คลอโรฟิลล์ผ่านไป 2 สัปดาห์ จึงให้การรับรองว่าเป็นยาดับกลิ่นภายใน สามารถซื้อขายได้ตามร้านขายยาทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 1990 ตามเอกสารที่ขึ้นทะเบียนยาที่ 21 CFR Part 357 Deodorant Drug Products for Internal Use For Over-the-Counter Human Use;Final Monograph;FinalRule คลอโรฟิลล์ จาก "อัลฟัลฟ่า"การสกัดและวิเคราะห์ "คลอโรฟิลล์" จากพืชกว่า 6,000 ชนิด พบว่าพืชที่ให้ "คลอโรฟิลล์" ที่บริสุทธิ์และดีที่สุดคือ "อัลฟัลฟ่า" (ALFALFA) ซึ่งจัดเป็นพืชจำนวนที่มีฝัก (LEGUMES) ตระกูลถั่ว และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก ในบางพื้นที่รากของอัลฟัลฟ่าสามารถซอนไซลงไปลึกกว่า 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่าอีกทั้งตัวของมันเองจะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จาก "อัลฟัลฟ่า"มากกว่า 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์ และใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม จึงขนานนามให้เป็น AL- FAS-FAH-SHA หรือ "ราชาแห่งอาหารทั้งมวล"

ประโยชน์ของ "อัลฟัลฟ่า" สามารถใช้บำบัดอาการปวดบวมและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปกติ ในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ตับถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า "อัลฟาฟ่า" สามารถช่วยทำให้เลือดสะอาดขึ้น อัลฟาฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมีโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน ,ลิวซีน,ไลซีน,เมไธโอนีน,ฟินิลอะลานีน,เทรโอนีน,ทริปโตฟานและวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ในอัลฟัลฟ่า ยังมีวิตามิน เอ,บี 6,บี12,ดี,อี และ เค รวมทั้งเกลือแร่ เช่น ฟอสฟอรัส, โปรตัสเซียม, แคลเซี่ยม,สังกะสี,เซเลเนียม และ แมกนีเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ ไลเปส,อาเมเลส,โคกูเลส,อีมูลซิน,อินเวอร์เตส,อินเวอร์เตส,เปอร์อ๊อกซิเดส,เพคติเนส,โปรตีส,มนุษย์เราต้องการเอนไซม์มากกว่า 3,000 ชนิด แต่ร่างกายสร้างได้เองเพียงไม่กี่ชนิด นอกนั้นต้องบริโภคจากอาหารสดประจำวัน ประเภทพืชผักและผลไม้ต่าง ๆ แต่ถ้าหากอาหารเหล่านี้ผ่านความร้อนเกินกว่า 55 องศาเซลเซียสขึ้นไป เอนไซม์ต่าง ๆ จะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไปและร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ร่างกายต้องการเอนไซม์เพื่อช่วยปรับระดับความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และจากวิธีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนี้ เราได้รับเอนไซม์เข้าไปในร่างกายน้อยมาก ในอัลฟาฟ่ายังมีซาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลในการลดในการอุดตันของเส้นเลือดและช่วยยับยั้งคลอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL)ในเลือดลงได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตลง ไอโซฟลาโวน,ฟลาโวลและสเตอโรล ในอัลฟาฟ่ายังช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และปรับระดับฮอร์โมนดังกล่าวในผู้หญิง ทั้งก่อนมีรอบเดือน (PMS) และอยู่ในวัยที่ใกล้จะหมดรอบเดือน (MENOPAUSE)

คลอโรฟิลล์จะช่วยท่านได้อย่างไร จากประสบการณ์ของผู้บริโภคจากทั่วโลกสรุปความหน้าสนใจของคลอโรฟิลล์ได้ดังนี้
- ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากอาการอ่อนเพลีย มีผลดีกว่ากาแฟ 50 เท่า
- ขับสารพิษออกจากร่างกาย โดยเฉพาะสารตกค้างจากยาปฏิชีวนะ หรือสารตกค้างจากเคมีบำบัด และในอาหารทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีขึ้น
- แมกนีเซียมที่หลุดออกจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลล์จะทำหน้าที่พาแคลเซียม เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
- มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลในปาก แผลในกระเพาะอาหาร และช่วยบรรเทาอาการลำไส้อักเสบ
- ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้าและกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ได้ดี ภาพภายในโรงผลิตคลอโรฟิลล์ ที่สหรัฐอเมริกา
- ช่วยปรับระดับน้ำตาลในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะไปทำให้ตับอ่อนทำหน้าที่ดีขึ้น สามารถผลิตอินซูลินได้มากขึ้น
- ช่วยปรับระดับความดันโลหิต เพราะไปช่วยให้ผนังเส้นโลหิต แข็งตัวน้อยลงในผู้สูงอายุ ทำให้เส้นผนังโลหิตยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความดันโลหิตลงมาได้

14/1/56

นีโอเซลล์ ซูเปอร์คอลลาเจน พลัส ซี Neocell Super Collagen

0 ความคิดเห็น



สินค้าใหม่มาแรง



นีโอเซลล์ ซูเปอร์คอลลาเจน พลัส ซี   Neocell Super Collagen Type 1 and 3 plus Vitamin C Tablets, 250 Count

 

 1 กระปุก บรรจุ 250 เม็ด  ราคา 1,100 บาท พิเศษซื้อ 2 กระปุกขึ้นไปราคาส่งสุดพิเศษ !!!







      ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์คอลลาเจนสูตรเม็ด นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาที่ให้ปริมาณของคอลลาเจนสูงถึง 6,000 mg ต่อวัน(สูงกว่า 3.5
เท่าเปรียบเทียบกับ DHC 1,750 mg หรือแม้แต่ Meiji Collagen 5,000 mg) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสให้
คอลลาเจนมีส่วนช่วยให้โครงสร้างโปรตีนในผิว ผม เล็บ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ และกระดูกแข็งแรง

           วิธีรับประทานให้เห็นผลสุงสุด แบ่งรับประทานเช้าและก่อนนอน (หรือขณะท้องว่าง)ครั้งละ 3 เม็ด

ปริมาณ 250 เม็ด รับประทานได้ 41 วัน
ชนิดของคอลลาเจน มี 6 ชนิดที่พบมาก จาก 29 ชนิด

- ชนิดที่ 1(Type 1) เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 – 160 นาโนเมตร พบในกระดูก ผิวหนัง เส้นเอ็นกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
เมื่อเราโตขึ้นคอลลาเจน Type I ก็จะถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่ Type 3 จนกระทั่งอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ โดยลดลงในอัตรา 1.5% ต่อปี
- ชนิดที่ 2(Type 2) เล็กกว่า 80 นาโนเมตร พบในหมอนรองกระดูก และกระดูกอ่อน
- ชนิดที่ 3(Type 3) คนปกติจะพบในม้าม กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดแดงเอออต้า แต่ในวัยเด็กเราจะมีคอลลาเจน Type III มากที่สุด ผิวของเด็กจึงดูนุ่มเนียน
 เต่งตึงสะดุดตากว่าวัยไหนๆ เพราะชนิดนี้จะมีคุณสมบัติให้ความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม
- ชนิดที่ 4  ในเยื่อหุ้มเซลล์ และกล้ามเนื้อ
- ชนิดที่ 5 พบในเซลล์ที่ใช้สร้างไข่ของหญิงและเยื่อเซลล์
- ชนิดที่ 6 ในกล้ามเนื้อและผิวหนัง
    • ถาม-ตอบจะทานตัวไหนดี
      **ชนิด ที่ 4 ,5, 6 พบปริมาณน้อย การสกัดมาใช้ในเครื่องสำอางค์หรืออาหารเสริมจึงลอกเลียนแบบธรรมชาติให้มี
    •  ความไกล้เคียงมากที่สุดซึ่งไทป์ 1&3 จะพบค่อนข้างมากและต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยหนุ่ม
    • อะไร คือ Collagen type 1+ hyaluronic……..เป็นชนิดที่จะเสริมความต่อเนื่องของชนิดคอลลาเจน ในช่วงวัยหนุ่มซึ่งมีการลดลงทุกๆปี
    • และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยมีไฮยาลูโรนิกดึงน้ำเข้าสู่เซลล์ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบที่มีคอปเปอร์ซึ่งสารนี้จะมีส่วนช่วยให้เกิดการสร้าง คอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
    • Collagen แบบผง typr 1&3 กับ Collagenแบบเม็ด type 1+ hyaluronic ต่างกัน อย่างไร แบบไหน ดีกว่า…
    • ตอบ ได้ว่า….หากอยากเร่งลดรอยแก่เร็วต้องน็อคดาวน์โด๊สด้วยการทานแบบผงซึ่ง ได้ครั้งละ 6600-7000 มก.ต่อช้อนต่อครั้งที่ทานเพราะธรรมชาติมนุษย์มีแต่ตักแบบเกินขอบปากช้อนทั้งนั้น
    • ถามว่าไทป์1 +ไฮยาลูโรนิกดีกว่าหรือไม่..
    • ตอบ ได้ว่าคงสู้ 2 ไทป์ไม่ได้ แต่ตัวนี้จะมีจุดเด่นคือให้ความต่อเนื่องของชนิดคอลลาเจนในวัยหนุ่ม อีกทั้งเสริมไฮยาลูโรนิกและคอปเปอร์เข้ามาเพิ่มคุณสมบัติการสร้างคอลลาเจน เพิ่มการชะลอความแก่ได้ด้วย หากจะให้ดีควรทานคู่กัน
    • ถาม..ทำไมจึงต้องเสริม Fish Collagen+HA  อีก เมื่อเราทาน Super Collagen Powder6600mg  ไปแล้ว…..
    • ตอบ เพราะ Fish Collagen+HA มีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 อย่างคือ Fish Collagen Type I + Hyaluronic acid+Copper ซึ่งในวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคนไทป์ที่มีที่ผิวหนังส่วนใหญ่
    • จะเป็นไทป์ 1 หากเราทานแบบ Powder เข้าไปก็จะได้ทั้งความอ่อนเยาว์และเต่งตึงแบบไกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด แต่ทุกๆขณะการลดลงของคอลลาเจนก็มีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
    •  ซึ่งไทป์ที่ลดลงโดยธรรมชาติของร่างกายหลักๆคือไทป์ 1หรืออาจจะพิจารณาได้ว่าการเสริมคอลลาเจนเข้าไปนั้นเป็นการทดแทนชั่วคราวก็เป็นได้ การเสริมType I
    • ที่สกัดจากปลาทะเล (Fish Collagen)ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์มากที่สุดเพิ่มเข้าไปหลังจากรับประทานแบบ Powder นั้น
    • ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับไทป์ 1 ซึ่งสำคัญต่อร่างกายอย่างเพียงพอ อีกทั้งกรด Hyaluronic ในส่วนประกอบจะช่วยดึงน้ำเข้าสู่เซลล์ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นอ่อนเยาว์
    •  ไม่แห้งกร้าน อีกทั้ง Copper จะช่วยให้ร่างกายเสริมสร้างคอลลาเจนได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น  สามประสานนี้จะช่วยเติมเต็มสำหรับท่านที่รับประทานคอลลาเจนแบบผงหรือแบบเม็ดอยู่อย่างเดียวได้ดีเยี่ยม
    •  เห็นผลรวดเร็ว แลดูอ่อนวัยและยาวนานยิ่งขึ้น
    • อะไรคือ Collagen type 1&3
    • ….ชนิด ที่ 1(Type 1)คอลลาเจนชนิด I เป็นคอลลาเจนหลัก มีมากที่สุดในร่างกาย (ประมาณ 90% ของคอลลาเจนในร่างกาย) เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 – 160 นาโนเมตร พบในกระดูก ผิวหนัง
    •  เส้นเอ็นกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด เมื่อเราโตขึ้นคอลลาเจน Type I ก็จะถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่ Type 3 (ที่สร้างเมื่อแรกเกิดจนวัยเด็ก)จนกระทั่งอายุ 25 ปีขึ้นไป
    •  คอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ โดยลดลงในอัตรา 1.5% ต่อปี
    • ชนิด ที่ 3(Type 3) คนปกติจะพบในม้าม กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดแดงเอออต้า แต่ในวัยเด็กเราจะมีคอลลาเจน Type III มากที่สุด ผิวของเด็กจึงดูนุ่มเนียน เต่งตึงสะดุดตากว่าวัยไหนๆ เพราะชนิดนี้จะมีคุณสมบัติให้ความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม